ข่าวทั่วไป

เหตุการณ์ไฟไหม้เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากไม่มีการป้องกันเอาไว้ให้ดีหรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อของใครก็ตาม เราจะเห็นว่าเวลาเกิดเหตุไฟไหม้ทีถ้าไม่มีการป้องกันอย่างดีพร้อมก็จะก่อให้เกิดความบานปลายจนเรื่องราวใหญ่โตขึ้นได้เหมือนกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร 8 ชั้น แต่ที่น่าสลดไปกว่านั้นก็คือเหตุการณ์ดังกล่าวมียอดผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศเลยก็ว่าได้ เหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร 8 ชั้นในเกาหลีใต้ ส่งยอดผู้เสียชีวิตมากมาย มีรายงานระบุออกมาว่าได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่เมืองเจชอน เกาหลีใต้ ส่งให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 29 ราย ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 26 ราย ซึ่งพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้นี้เป็นพื้นที่อาคารศูนย์ออกกำลังกายแห่งหนึ่งในเมืองเจชอน จัดว่าเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งของเกาหลีใต้รวมถึงมียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากรายงานระบุว่าเพลิงได้เริ่มต้นลุกไหม้เวลาประมาณ 4 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่นก่อนจะลุกลามขึ้นไปยังอาคารสูง 8 ชั้น ด้วยความรวดเร็วส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากยังติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าว นอกจากนี้หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้ยังมีรายงานว่าได้พบกับเหยื่อถึง 20 คนบริเวณห้องซาวน่าสาธารณะ นอกจากนี้ก็ยังพบเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในพื้นทีอื่นๆ อีก ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ออกกำลังกายสาธารณะ, ห้องอาบน้ำสาธารณะ และร้านอาหาร ด้านโฆษกของหน่วยดับเพลิงยังได้มีการเปิดเผยอีกว่า จากการที่ไฟไหม้ทำให้เกิดควันพิษขึ้นอย่างรวดเร็วจนผู้คนที่ติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าวหลายคนไม่สามารถหนีออกมาได้ ส่วนเหยื่อที่อยู่ในห้องอาบน้ำสาธารณะส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างนอกเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้จนไฟได้ลุกลามเข้ามาและพวกเขาก็ไม่สามารถหาทางออกมาได้ คาดการณ์ว่าเมื่อค้นหาเข้าไปน่าจะยังเจอกลุ่มผู้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าเหยื่อบางคนตัดสินใจกระโดดลงมาจากอาคารซึ่งข้างล่างมีฟูกของหน่วยกู้ภัยรองรับเอาไว้ เหตุการณ์ดังกล่าวใช้นักดับเพลิงกว่า 500 คน รถพยาบาล 14 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำเพื่อช่วยเหลือยังที่เกิดเหตุ จากการสันนิษฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ใต้อาคารเกิดเพลิงไหม้และไฟก็ค่อยๆ ลุกลามไปทั่วบริเวณ นับเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลีใต้นับตั้งแต่ปี 2546 ที่มีผู้ลอบวางเพลิงรถไฟฟ้าใต้ดินบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแดกู ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 192 ราย มีผู้บาดเจ็บอีก 150 คน ถือเป็นความสูญเสียที่น่าเศร้าใจมากๆ ของชาวเกาหลีใต้  

ในวงการลูกหนังเริ่มทยอยประกาศรายชื่อนักเตะซึ่งจะใช้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องรวมทั้งเกมฟุตบอลโลกปี 2018 ในรอบคัดเลือกออกมากันอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในทีมอันจับตามอง คือ เกาหลีใต้ ผู้เป็นจ้าของตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอล Asian cup ทีมล่าสุด โดยผู้เล่นกว่าครึ่งทีมนั้นเป็นดาวเตะซึ่งลงเล่นอยู่ใน k league ซึ่งเป็นฟุตบอลลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ แต่ผู้เล่นหลายคนก็ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นในนามทีมชาติมาก่อนเลยแม้แต่นัดเดียว ความน่าสนใจเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งในนักเตะที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นให้กับ “Taeguk warriors” ใน match อย่างเป็นทางการมาก่อนแต่ได้รับโอกาสอันดีงาม เพราะมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ขุนพลชุดนี้คือ Kang Su il เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ดาวยิงวัย 27 ปี จากสโมสร jeju united เคยถูก Uli Stielike เรียกตัวมาลงซ้อมใน Training camps ของทีมชาติเกาหลีใต้ก่อนศึก Asian cup มาแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องหลุดจากรายชื่อผู้เล่น 23 คนสุดท้าย พร้อมกับพลาดโอกาสลงประเดิมสนาม Taeguk warriors อย่างเป็นทางการไปอย่างน่าเสียดาย แต่จากการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมใน k league ฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวระเบิด Score ไปแล้วถึง 5 ประตูด้วยกัน รวมทั้งมีส่วนสำคัญทำให้ต้นสังกัดอย่าง jeju united เข้ามีผลงานดีจนขึ้นไปติด TOP Four ของตารางคะแนน k

Etiam vulputate rutrum molestie. Quisque vel quam luctus, efficitur mauris eget, euismod sapien. Nulla tristique nisl nec euismod maximus. Nunc velit quam, lobortis sit amet ante a, pretium finibus est. Integer consectetur laoreet viverra. Vestibulum facilisis risus sit amet tellus interdum, quis iaculis dolor imperdiet. Mauris non enim efficitur, feugiat eros in, accumsan elit. Maecenas sed accumsan eros, ac pellentesque nibh. Ut et augue orci. Maecenas maximus blandit lacus non

ครูบาอาจารย์เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของเราอีกคนหนึ่ง ทั้งสั่งสอนให้เราเติบโตเป็นคนดี รวมทั้งให้ความรู้การศึกษา จนเราสามารถเติบใหญ่กลายไปเป็นคนมีคุณภาพของสังคม อีกทั้งความไม่มีพรหมแดนอย่างการถือยศถืออย่างเป็นสิ่งที่น่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก อย่างที่เราจะได้ซาบซึ้งไปกับข่าวดีๆ อย่างนี้ เพียงภาพๆ เดียวก็สามารถบอกเล่าความประทับใจได้อย่างไม่รู้จบ เหตุการณ์ดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นในวันครูของประเทศเกาหลีใต้ ครูอาจารย์ไม่ว่าจะทั้งชายทั้งหญิง ทั้งหนุ่มสาวหรือสูงวัย ต่างก้มลงล้างเช็ดเท้าให้ลูกศิษย์ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ระหว่างครูกับนักเรียน ในฐานะผู้มอบความรู้กับผู้รับความรู้นั้นจนสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ภาพความทรงจำอันน่าประทับใจระหว่างลูกศิษย์และอาจารย์ ณ เกาหลีใต้เนื่องในวันครูแห่งชาติ ได้ถูกแพร่ไปทั่วโลก เมื่อเหล่าคุณครูนั่งลงบนพื้นที่มีเสื่อปูไว้เพียงบางๆ ได้ลงมือล้างและเช็ดเท้าให้กับนักเรียนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ นับเป็นกิจกรรมที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างช้านานแล้ว เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดีงามระหว่างครูกับนักเรียน ที่เป็นผู้ให้และผู้รับทางด้านการศึกษาเรียนรู้ ตามรายงานระบุว่า ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ส. 2017 ที่ผ่านมา ตรงกับวันครูแห่งชาติในประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เกิดภาพน่ารักๆ อันแสนน่าซึ่งใจ จากกิจกรรมชำระล้าง โดยครูจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งครูเป็นผู้ให้ความรู้รวมทั้งการศึกษาแก่นักเรียน ได้นั่งลงบนพื้นและล้างเช็ดเท้าให้กับลูกศิษย์ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ โดยกิจกรรมนี้ก็มีเพื่อต้องการสานสัมพันธ์อันดีงามน่าจดจำระหว่างคุณครูกับลูกศิษย์ ถือว่าเป็นการสร้างความผ่อนคลายให้นักเรียนซึ่งตั้งใจร่ำเรียนอย่างหนัก เพื่ออนาคตข้างหน้าที่ดี การเรียนนั้นเป็นไปท่ามกลางความกดดันบวกด้วยภาวะความเครียดต่างๆ คุณครูจึงผ่อนคลายให้ ขณะที่ตัวลูกศิษย์เองก็จะได้คิดถึงครูอาจารย์ผู้ให้ความรู้และความเมตตา หวังให้ลูกศิษย์ทุกคนมีความประสบความสำเร็จในภายภาคหน้า ทำให้วันครูแห่งชาติของเกาหลีใต้จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างบางบริษัทก็มีจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงครูอาจารย์ผู้สอนให้ความรู้ จนสามารถยืนหยัดประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นเดียวกัน ทางด้านภาพกิจกรรมดังกล่าวนั้น อาจดูขัดต่อแนวความคิดในการนับถือผู้อาวุโสสำหรับบางประเทศในเอเชีย แต่เราต้องมีความเข้าใจว่าแต่ล่ะประเทศนั้นไม่เหมือนกัน เพียงแค่รับรู้ไว้ว่าอย่างน้อยกิจกรรมนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ก็คงเพียงพอแล้ว