admin

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้เดินทางมาดูแลสถานการณ์ไฟไหม้ด้วยตนเอง หลังจากเกิดเหตุไฟป่าไหม้ลุกลาม ณ เมือง Sokchoประเทศเกาหลีใต้ ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. เกิดเหตุไฟป่าไหม้ลุกลาม ณ เมือง Sokcho จังหวัด Gangwon-do ประเทศเกาหลีใต้ โดยเหตุการณ์เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดหลังจากนั้นไฟก็ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนเกิดความรุนแรงในระดับ 3 บวกกับกำลังลมแรงจึงทำให้ไฟลามอย่างบ้างคลั่ง ส่งผลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก พบผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย โดยประชาชนต้องรีบเร่งอพยพหนีตาย จากเปลวเพลิงอันโหมกระหน่ำ พร้อมทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า จากจำนวนที่พักกว่า 4,000 คน ไฟป่าได้กัดกินลุกลามอาณาเขตมากกว่า 385 Hector ส่งผลให้ที่พักอาศัย, อาคาร เสียหายอย่างหนักจำนวนมากกว่า 310 หลังคาเรือน หลังเกิดเหตุนาย Moon jae in ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยกเลิกกําหนดการณ์ต่างๆ ในช่วงเช้าของ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2562 อย่างกะทันหัน เพื่อเข้ามาดูเหตุการณ์ไฟไหม้ ณ Gangwon-do ด้วยตนเอง โดยทางรัฐบาลได้ประกาศให้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพราะมาจากเหตุไฟป่านี้ อีกทั้งยังเป็นการรวมความช่วยเหลือทั้งหมด เพื่อเข้ามาควบคุมไฟ จากรายงานข่าวล่าสุดได้ระบุว่า ณ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 90 % ซึ่งทางด้าน Twitter ผู้คนต่างติด #PrayForKorea

การประชุมสุดยอดผู้นำโลกแต่ละครั้งย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง แนวทางการดำเนินงานที่อาจจะต้องมีการให้คำสัญญาร่วมกัน หรือ อาจจะลงชื่อปฏิญญาร่วมกันก็มี แต่ล่าสุดการพบกันระหว่างทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ คิม ผู้นำของเกาหลีเหนือ หัวข้อหลักเลยก็คือนิวเคลียร์ ทำไมเรื่องนี้ถึงยังไม่จบ ความน่ากลัวของ นิวเคลียร์ ต้องยอมรับก่อนว่า นิวเคลียร์ กลายเป็นความมั่นคงรอบใหม่ของโลกมาหลาย 10 ปีแล้ว เนื่องจากการทำลายล้างของมันทั้งรุนแรงและตกค้างเป็นเวลานาน เกาหลีเหนือเองก็ครอบครองเทคโนโลยีนี้อยู่ด้วยเช่นกัน ทำให้หลายโลกเป็นกังวลกลัวว่า เกิด คิม ยิงใส่ประเทศไหนขึ้นมา มันจะกลายเป็นสงครามระหว่างประเทศหรือกลายเป็นสงครามโลกทันที การเจรจาลดระดับ ทุกประเทศรู้ว่าเกาหลีเหนือมีเทคโนโลยีตัวนี้ แต่เราไม่สามารถบังคับให้ประเทศปลายทางลดระดับนิวเคลียร์ลงได้ (ลองนึกภาพดูคงไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาสั่งหรอก) ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การเข้าหาเพื่อเจรจาตั้งโต๊ะพูดคุยกันอย่างสันติว่าต้องการให้ลดระดับนิวเคลียร์ลง ซึ่งหลายครั้งการตั้งโต๊ะเจรจากับนายคิม ผู้นำเกาหลีเหนือจะไม่สำเร็จสักเท่าไร เพราะนายคิมเองก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือนัก คราวนี้นายทรัมป์สามารถทำสำเร็จสามารถขอเจรจาเรื่องนี้ได้ ผลการเจรจาไม่สำเร็จ แม้จะเป็นความสำเร็จ แต่ก็เพียงแค่ขั้นแรกเท่านั้น เนื่องจากหลังจากการเจรจาระหว่าง ทรัมป์ กับ คิม จบลง ทุกอย่างก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีการออกมาพูดคุยกับสื่อเรื่องของสัญญาว่าจะลดระดับนิวเคลียร์ลง ไม่มีอะไรทั้งนั้นพูดง่ายๆ ว่าการเจรจาครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จเลย คว่ำบาตร กับ นิวเคลียร์ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้การเจรจาครั้งนี้ไม่สำเร็จ เป็นผลมาจากการเจรจาเพื่อลดระดับการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐและยุโรปไม่เป็นผลด้วย หากยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากอเมริกา และยุโรป ก่อน เชื่อว่าทางการเกาหลีเหนือก็จะลดระดับนิวเคลียร์ลงเช่นเดียวกัน เมื่อการแลกเปลี่ยนข้อตกลงนี้ไม่เป็นผล นายคิมก็ไม่จำเป็นต้องลดระดับนิวเคลียร์หากทำแบบนั้นก็เท่ากับว่า คิม ยอมเสียเปรียบแบบไม่ได้อะไรเลย นิวเคลียร์ อาวุธสุดท้าย แม้เราจะไม่รู้ว่า ระดับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือถือครองอยู่นั้นจะมีเท่าไร (จำนวนหัวรบนิวเคลียร์, ความสามารถในการยิงพิสัยไกลข้ามทวีป) แต่ต้องยอมรับว่า นิวเคลียร์เป็นอาวุธทางการเมืองชิ้นหนึ่งที่ นายคิม

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อทีมนักเตะจากประเทศเกาหลีใต้ ได้เอาชนะทีมของเยอรมันลงได้ แต่กลับตกรอบแรกฟุตบอลโลกปี้นี้ และเดินทางกลับไปยังบ้านไปยังสนามบินอินชอน โดยมีแฟนๆ มาต้อนรับกว่าหลายร้อยคน ในขณะที่แฟนบอลบางส่วนผิดหวังกับความพ่ายแพ้ของทีมชาติตนเอง จนได้มีการปาไข่ และหมอนข้างใส่ทีมนักเตะเกาหลีใต้ ซึ่งถ้าเราตามข่าวจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า เมื่อสมัยก่อนก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง วันนี้ราจะไปย้อนดูเหตุการณ์กันว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างในอดีต ทีมชาติของเกาหลีใต้นั้นโดนอะไรกันมาบ้าง ในสมัยก่อนนั้น ทีมชาติของเกาหลีในวงการฟุตบอลโลกไม่เคยแม้แต่จะผ่านเข้ารอบได้ซักครั้ง จนกระทั่งประเทศเกาหลีใต้ได้รับเลือกให้เป็นประธานฟีฟ่า ในปี ค.ศ.2002 ในระหว่างการแข่งขันกับอิตาลี และสเปน ซึ่งสามารถเอาชนะมาได้อย่างสวยงาม (เกินไป) จนทำให้หลายคนคิดว่ากรรมการนั้นดูเหมือนจะเข้าข้างฝ่ายเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก จนกระทั่งเกาหลีใต้ได้เป็นประธานอาเซียนเกม ประจำปี 2014 ก็สามารถเอาชนะอินเดียมาได้ โดยทั้งหมดนี้สามารถเห็นได้จากการกระทำที่แสดงออกถึงการโกงเช่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในสมัยก่อน จนตอนนี้ทำให้ภาพลักษณะของเกาหลีใต้นั้นดูย่ำแย่ลงอย่างมาก ในฐานะประเทศที่จะต้องการคว้าชัยชนะโดยไม่เกี่ยงวิธีการว่าจะโกงหรือไม่ การกระทำเช่นนี้ทำให้เกาหลีตกอยู่ในภาพลักษณ์ที่ไม่ดีอย่างมาก เพราะหลายๆ คน เลือกที่จะมองว่าเกาหลีใต้เป็นคนที่ขี้โกง ในระหว่างที่ประชาชนบางส่วนนั้นก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำในประเทศของตนเช่นกัน บางส่วนได้มีการออกมาต่อต้าน และพยายามอธิบายในโซเชียลว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นชอบจากการกระทำของรัฐบาลตนเอง ซึ่งในอนาคตนี้หลายชาติอาจจะต้องระมัดระวังตัวกันมากขึ้นหากต้องต่อกรกับทีมชาติของทางเกาหลีใต้ ซึ่งทางฝ่ายเราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าพวกเขานั้นจะมาไม้ไหนกันแน่ เพราะดูเหมือนว่าพี่แกจะหาทางโกงได้ตลอดในทุกกีฬาเลยทีเดียว อย่างเช่นในกีฬาแบดมินตัน ที่แข่งกันอยู่ดีๆ พอถึงฝั่งที่เจ้าภาพนั้นได้ย้ายฝั่งมาเล่นอีกด้าน จู่ๆ ก็มีลมเปลี่ยนทิศกระทันหันตลอดเวลา จนอดสังเกตไม่ได้ว่านี่มันลมธรรมชาติ หรือลมอะไรกันแน่ หรือจะเป็นการแข่งตะกร้อที่สว่างแสบตาเฉพาะจุดคือใคร ให้เดาดู โดยคำนี้มีหลักฐานมาจากปากผู้ชมทั้งสองฝั่งของสนาม ที่ได้เห็นการเปลีย่นแปลงของไฟระหว่างทั้งสองด้าน พอเจ้าภาพเปลี่ยนฝั่ง แสงก็ไปสว่างอีกด้านแทน สุดยอดเลยจริงๆ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดสังเกตที่ได้นำมาเพียงเล็กน้อย จริงๆ นั้นยังมีอีกมากเลยทีเดียว ถ้าจะเอามาเกรงว่าจะเล่ากันไม่จบในวันนี้ เอาเป็นว่าใครเจอกับพี่แกก็ต้องสันนิฐานไว้ก่อนเอาไว้เลยล่ะ  

เมื่อว่าจะมีการทดลองขีปนาวุธและการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อหมายจะขู่โจมตีเกาหลีใต้ กลับกลายเป็นเรื่องโชคดี หรือโชคร้าย กันแน่สำหรับเรา ที่พวกเขาหันมาจับมือกันเอง ตั้งแต่ที่เกาหลีเหนือถูกปกครองด้วยผู้นำสูงสุดอย่าง คิมจองอึน ที่ขึ้นรับตำแหน่งในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 34 ปี ได้ตกลงที่จะเข้าพบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมพ์ที่จะเดินทางมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ คิมให้คำมั่นว่าจะยกเลิกทดลองขีปนาวุธ รวมถึงการปลดประจำการฐานทำลองนิวเคลียร์ Punggye-ri เพื่อเป็นการตอบรับข้อทางเกาหลีใต้จะยุติกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับสงครามในเขตปลอดทหาร หรือ DMZ ซึ่งเป็นพื้นที่แบ่งทั้งสองประเทศออกจากกันตั้งแต่ปี 1950 – 1953 นับตั้งแต่สงครามเกาหลี ทางประธานาธิปดีของเกาหลีใต้นั้นออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะยอมรับข้อตกลงสันติภาพร่วมกับเกาหลีเหนืออย่างแน่นอน แต่อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นละ ? 1.ปัญหาทางการเมือง           เนื่องจากทั้งสองเกาหลีนั้น ปกครองด้วยระบอบที่แตกต่างกัน เกาหลีเหนือปกครองด้วยคอมมิวนิสต์ ส่วนเกาหลีใต้นั้นเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเห็นชัดว่ามันเข้ากันไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ยังคงมีตัวเลือกหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ก็คือ 1 ประเทศ 2 ระบอบ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศจีน และฮ่องกงมีสองระบบการเมืองที่ไม่ซ้ำกันภายใต้ร่มเงาของประเทศเดียวกัน 2.ฐานเศรษฐกิจที่แตกต่าง ปัญหาทางเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข เกาหลีเหนือมี GDP น้อยกว่า 1% ของเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ของโลก การรวมตัวกันของสองเศรษฐกิจการจะเป็นเรื่องที่ก่อหายนะ เหมือนครั้งที่ ตะวันออกและตะวันตกเยอรมันรวมเข้าด้วยกันในปี ปี 1990 ปัจจุบันนี้ทางตะวันออกก็ยังคงพัฒนาการที่ล้าหลังอยู่มาก 3.ระบบสังคมที่ต่างกันสุดขั้ว เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมการแข่งขันสูง ใช่เวลาด้วยความรวดเร็วที่สุด เป็นแหล่งผลิตศิลปิน ดารา นักร้องมากมาย รวมถึงเด็กวัยรุ่นที่ชอบเล่นเกม สังคมของที่นี่เข้มงวดเป็นอย่างมาก เด็กนักเรียนต้องเรียนมากถึง 16

เหตุการณ์ไฟไหม้เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากไม่มีการป้องกันเอาไว้ให้ดีหรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อของใครก็ตาม เราจะเห็นว่าเวลาเกิดเหตุไฟไหม้ทีถ้าไม่มีการป้องกันอย่างดีพร้อมก็จะก่อให้เกิดความบานปลายจนเรื่องราวใหญ่โตขึ้นได้เหมือนกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร 8 ชั้น แต่ที่น่าสลดไปกว่านั้นก็คือเหตุการณ์ดังกล่าวมียอดผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศเลยก็ว่าได้ เหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร 8 ชั้นในเกาหลีใต้ ส่งยอดผู้เสียชีวิตมากมาย มีรายงานระบุออกมาว่าได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่เมืองเจชอน เกาหลีใต้ ส่งให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 29 ราย ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 26 ราย ซึ่งพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้นี้เป็นพื้นที่อาคารศูนย์ออกกำลังกายแห่งหนึ่งในเมืองเจชอน จัดว่าเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งของเกาหลีใต้รวมถึงมียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากรายงานระบุว่าเพลิงได้เริ่มต้นลุกไหม้เวลาประมาณ 4 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่นก่อนจะลุกลามขึ้นไปยังอาคารสูง 8 ชั้น ด้วยความรวดเร็วส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากยังติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าว นอกจากนี้หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้ยังมีรายงานว่าได้พบกับเหยื่อถึง 20 คนบริเวณห้องซาวน่าสาธารณะ นอกจากนี้ก็ยังพบเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในพื้นทีอื่นๆ อีก ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ออกกำลังกายสาธารณะ, ห้องอาบน้ำสาธารณะ และร้านอาหาร ด้านโฆษกของหน่วยดับเพลิงยังได้มีการเปิดเผยอีกว่า จากการที่ไฟไหม้ทำให้เกิดควันพิษขึ้นอย่างรวดเร็วจนผู้คนที่ติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าวหลายคนไม่สามารถหนีออกมาได้ ส่วนเหยื่อที่อยู่ในห้องอาบน้ำสาธารณะส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างนอกเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้จนไฟได้ลุกลามเข้ามาและพวกเขาก็ไม่สามารถหาทางออกมาได้ คาดการณ์ว่าเมื่อค้นหาเข้าไปน่าจะยังเจอกลุ่มผู้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าเหยื่อบางคนตัดสินใจกระโดดลงมาจากอาคารซึ่งข้างล่างมีฟูกของหน่วยกู้ภัยรองรับเอาไว้ เหตุการณ์ดังกล่าวใช้นักดับเพลิงกว่า 500 คน รถพยาบาล 14 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำเพื่อช่วยเหลือยังที่เกิดเหตุ จากการสันนิษฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ใต้อาคารเกิดเพลิงไหม้และไฟก็ค่อยๆ ลุกลามไปทั่วบริเวณ นับเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลีใต้นับตั้งแต่ปี 2546 ที่มีผู้ลอบวางเพลิงรถไฟฟ้าใต้ดินบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแดกู ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 192 ราย มีผู้บาดเจ็บอีก 150 คน ถือเป็นความสูญเสียที่น่าเศร้าใจมากๆ ของชาวเกาหลีใต้  

ทีมงาน Avengers Age of Ultron ได้ใช้กรุงโซล เป็นฉากหลังในภาพยนตร์ นับเป็นครั้งแรกที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ของอเมริกาซึ่งมีระดับใหญ่มาก ได้ยกกองถ่ายทำมายังเมืองหลวงแห่งนี้ เกาหลีใต้มีฐานแฟน Marvel ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผู้ควบคุมงานสร้าง louis di Esposito กล่าวว่า เกาหลีใต้จัดเป็นหนึ่งในตลาดระดับบน อย่างตอน The Avengers เข้าฉายเป็นครั้งแรก ตลาดหนัง Hero ได้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่นั้นมา อย่างตัวผู้กำกับ kevin feige เองยังมองว่าโซลเป็นเมืองทันสมัยมากๆ รวมทั้งเป็นสังคมอันผสมผสานไปด้วยเทคโนโลยี หนึ่ง ใน location ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้อยากนำเสนอ คือสะพาน Mapo ซึ่งข้ามแม่น้ำ Hun ในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างเขต Mapo และเขต young dung po สะพานนี้จะเป็น Block Drop ในตอนกัปตันอเมริกาไล่ตามแล้วปีนขึ้นบนหลังคารถบรรทุก จากมอเตอร์ไซค์ของเขา ในการถ่ายทำฉากนี้ ทีมงานได้ปิดสะพาน Mapo ลง และนับเป็นครั้งแรกที่สะพาน Mapo ถูกปิดเพื่อถ่ายทำหนัง สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับโซลคือมันมีสะพานอื่นๆ อีกเป็นร้อยๆ แห่ง แต่ไม่มีสะพานไหนมีรูปร่างแบบเดียวกันเลย ทางกองถ่ายได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี อีกทั้งการได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำบนสะพาน Mapo ก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากทีเดียว ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสะพานที่กว้างและยาวที่สุดในโซล โดยทางเกาหลีใต้ยอมให้ปิดการจราจรทั้งสองฝั่งเพื่อจัดฉากAction นี้ ชาวเกาหลีใต้เป็นแฟนคลับที่กระตือรือร้นมากๆ Chris Evans

ในวงการลูกหนังเริ่มทยอยประกาศรายชื่อนักเตะซึ่งจะใช้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องรวมทั้งเกมฟุตบอลโลกปี 2018 ในรอบคัดเลือกออกมากันอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในทีมอันจับตามอง คือ เกาหลีใต้ ผู้เป็นจ้าของตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอล Asian cup ทีมล่าสุด โดยผู้เล่นกว่าครึ่งทีมนั้นเป็นดาวเตะซึ่งลงเล่นอยู่ใน k league ซึ่งเป็นฟุตบอลลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ แต่ผู้เล่นหลายคนก็ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นในนามทีมชาติมาก่อนเลยแม้แต่นัดเดียว ความน่าสนใจเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งในนักเตะที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นให้กับ “Taeguk warriors” ใน match อย่างเป็นทางการมาก่อนแต่ได้รับโอกาสอันดีงาม เพราะมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ขุนพลชุดนี้คือ Kang Su il เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ดาวยิงวัย 27 ปี จากสโมสร jeju united เคยถูก Uli Stielike เรียกตัวมาลงซ้อมใน Training camps ของทีมชาติเกาหลีใต้ก่อนศึก Asian cup มาแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องหลุดจากรายชื่อผู้เล่น 23 คนสุดท้าย พร้อมกับพลาดโอกาสลงประเดิมสนาม Taeguk warriors อย่างเป็นทางการไปอย่างน่าเสียดาย แต่จากการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมใน k league ฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวระเบิด Score ไปแล้วถึง 5 ประตูด้วยกัน รวมทั้งมีส่วนสำคัญทำให้ต้นสังกัดอย่าง jeju united เข้ามีผลงานดีจนขึ้นไปติด TOP Four ของตารางคะแนน k

Nunc quis gravida odio. Suspendisse id massa commodo, suscipit ex sit amet, egestas urna. Nam mattis tempus tellus, id suscipit nulla aliquam eget. Suspendisse in placerat lacus. Vestibulum id luctus tortor, ac molestie nisl. Phasellus eget nulla nec dolor tincidunt tempor a ut neque. Mauris tempor vulputate nisl id vulputate. Donec id odio at dui pharetra luctus non eu ipsum. Donec sagittis, velit hendrerit dignissim sodales, diam diam scelerisque mi,