แทกุกวอริเออร์ส โผล่ลูกครึ่งคนที่ 2 แล้ว

ในวงการลูกหนังเริ่มทยอยประกาศรายชื่อนักเตะซึ่งจะใช้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องรวมทั้งเกมฟุตบอลโลกปี 2018 ในรอบคัดเลือกออกมากันอย่างต่อเนื่อง

และหนึ่งในทีมอันจับตามอง คือ เกาหลีใต้ ผู้เป็นจ้าของตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอล Asian cup ทีมล่าสุด

โดยผู้เล่นกว่าครึ่งทีมนั้นเป็นดาวเตะซึ่งลงเล่นอยู่ใน k league ซึ่งเป็นฟุตบอลลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ แต่ผู้เล่นหลายคนก็ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นในนามทีมชาติมาก่อนเลยแม้แต่นัดเดียว

ความน่าสนใจเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งในนักเตะที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นให้กับ “Taeguk warriors” ใน match อย่างเป็นทางการมาก่อนแต่ได้รับโอกาสอันดีงาม เพราะมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ขุนพลชุดนี้คือ Kang Su il

เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ดาวยิงวัย 27 ปี จากสโมสร jeju united เคยถูก Uli Stielike เรียกตัวมาลงซ้อมใน Training camps ของทีมชาติเกาหลีใต้ก่อนศึก Asian cup มาแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องหลุดจากรายชื่อผู้เล่น 23 คนสุดท้าย พร้อมกับพลาดโอกาสลงประเดิมสนาม Taeguk warriors อย่างเป็นทางการไปอย่างน่าเสียดาย แต่จากการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมใน k league ฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวระเบิด Score ไปแล้วถึง 5 ประตูด้วยกัน รวมทั้งมีส่วนสำคัญทำให้ต้นสังกัดอย่าง jeju united เข้ามีผลงานดีจนขึ้นไปติด TOP Four ของตารางคะแนน k league ณ ตอนนี้ จึงทำให้ Kang Su il ถูก Uli Stielike เรียกกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาเป็น 1 ใน 23 ขุนพลซึ่งจะมีโอกาสได้ลงสู่สนามจริงด้วย

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่เขาแตกต่างจากนักเตะเกาหลีทั่วๆ ไปตรงที่ Kang Su il ผู้นี้เป็นลูกครึ่ง อเมริกันและเกาหลีใต้ โดยมีพ่อเป็นทหารชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายแอฟริกัน และมีแม่เป็นชาวเกาหลีใต้

เพราะฉะนั้นการที่เจ้าตัวไม่ใช่นักเตะเกาหลีใต้แท้ๆ บวกกับความเป็นชาตินิยมของเกาหลีใต้ ที่ทุกคนรู้กันดีว่าพวกเขาไม่ค่อยยอมรับในตัวของคนที่เป็นลูกครึ่งมากเท่าไหร่

ก่อนหน้านี้ก็มีเพียงแค่ jang dae-il นักเตะลูกครึ่ง อังกฤษ-เกาหลีใต้ เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เคยติดทีมชาติของเกาหลีใต้ในฟุตบอลโลก 1998 จึงทำให้การมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ขุนพล Taeguk warriors ครั้งนี้ของ Kang Su il ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากบรรดาสื่อมวลชนและแฟนๆ ฟุตบอลเกาหลีใต้

เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากว่านักเตะลูกครึ่ง คนที่ 2 ในทีมชาติเกาหลีใต้ อย่าง Kang Su il จะทำผลงานครั้งนี้ดีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับ บรรดาลูกครึ่งคนอื่นๆ ในเกาหลีใต้ให้มีความกล้ามาเป็นอย่างตนเองได้หรือไม่